วันจันทร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2553

ตะลอน....วันว่าง3>> Old town

เมื่อทุกคนเริ่มหิวกันแล้ว โปรแกรมที่เที่ยวที่อื่นก็เริ่มหายไป เหลือแต่ที่มีร้านอาหารน่ากินๆให้เราเข้าไปพิสูจน์รสชาด
Let's go to old town
ก่อนอื่นเราก็ต้องนั่งmetro ไปลงที่King street station และที่นั่นเขาจะมีบริการรถเมล์(shuttle bus)พาทัวร์ old town ฟรีด้วย จะมาที่ป้ายทุกๆ2o นาทีเรามาถึงประมาณบ่ายสามโมงสิบ เมื่อถึงเวลาที่รถมาเราก็นั่งชมบรรยากาศกันไป เมืองแถวนี้เป็นเมืองเก่าที่เขาอนุรักษ์เก็บไว้ สวยมาก บรรยากาศดีมากด้วย มีตึกขายของเรียงติดกัน(ร้านขายของตกแต่งภายใน ร้านหนังสือ ร้านขายของเด็ก ฯลฯ) ต้นไม้ ถนน ผู้คนไม่พุกพล่าน และมีร้านอาหารให้เลือกกินเยอะมาก สุดทางที่รถจอดติดกับ แม่น้ำ potomac ลงจากรถปุ๊บเราก็ตรงไปหาร้านอาหาร ตอนแรกก็คิดอยู่ว่าจะกินอาหารไทยดีไหมสุดท้ายก็เปลี่ยนใจ(อาหารไทยกินที่บ้านเราน่าจะอร่อยสุด) พอเห็นร้านหนึ่งคนนั่งหน้าร้านเยอะดีเลยเข้าไป เป็นร้านออกแนวอิตาเลี่ยน เข้าไปก็งงๆพอได้นั่งโต๊ะเรียบร้อยเขาก็ถามก่อนจะดื่มอะไร เราก็ดื่มอะไรที่ไม่เสียตัง น้ำเปล่า เสร็จเขาก็แจกเมนู แล้วตามด้วยขนมปังฝรั่งเศสที่มีบริการให้ทุกโต๊ะ พอนั่งพินิตรดูเมนูกันก็ทำหน้างงๆเพราะว่า รายการอาหารมันเป็นชื่อของอาหารเลย เอาไงดีหว่าไม่รู่จะสั่งอะไร เราจึงตกลงกันให้สั่งคนละอย่างของแต่ประเภทที่แบ่งไว้(ไปกันสามคน) ฉันสั่งแซลมอลอะไรเนี่ยแหละ อู๋สั่งพาสต้าและยีนก็สั่งสเต็กไก่ พอคิดอาหารเมนูได้บริกรก็มารับออเดอ พอเห็นเราเป็นคนต่างชาติ เขาก็ชวนคุยนู้นนี่ พอเห็นอาหารที่เราสั่งเขาก็แนะนำว่าพาสต้ารสนี่นะอร่อยกว่า ถ้าสั่งสเต็กต้องรสนี่นะ เราก็เปลี่ยนตามที่เขาบอกนั่นแหละเพราะมันคงอร่อยจริงอย่างที่เขาบอก พอสั่งเสร็จอาหารก็เริ่มตะหนักว่าลืมคำนวณราคาอาหาร เพราะวันนั้นเราเอาเงินไปไม่มาก ฉันเหลือประมาณ $17 เพื่อนอีกสองคนเหลือ$10,$43เอาแหละ จะพอกับค่าอาหารไหมเนี่ยตอนแรกก็แบบว่าก็เสียวกันอยู่ แต่สักพักคำนวณดูก็เริ่มดีขึ้นน่าจะพอหน่า ประมาณสิบถึงสิบห้านาทีอาหารก็พร้อมเสริฟหน้ากินทั้งน้านเลย


และเราก็ใช่วิธีการหมุนเวียนจานอาหารผลัดกันกินแขกในร้านคงงงกับการกินของเรา ฮ่าๆๆและสุดท้ายเราก็กินหมด อิ่มจริงๆ สุดท้ายรอลุ้นตอนคิดตังค์ว่าจะเท่าไหร่
ทั้งหมด$61 แต่ให้ไป$65 บวกค่าทิปไปด้วย ไม่แพงเกินไปราคามันก็เหมาะกับอาหารแหละ เข้าresturant ทั้งทีหรูหน่อย

แต่สำหรับ OLD TOWN นั้นมีอะไรอีกหลายอย่างที่่wonderful มาต่อกันครั้งหน้านะจ๊ะ

วันอาทิตย์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2553

ตะลอน...วันว่าง2

หลังจากเดินเที่ยวตลาดกันแล้วเราก็ดูแผนที่ว่าจะไปไหนต่อกันดี
แล้วก็ตัดสินใจไป Library of congressซึ่งอยู่ไม่ไกลกับที่นี่มาก เราจึงเดินกันไป ระหว่างทางเดินก็เห็นบ้านเมืองแถบนั้น เหมือนในหนังโรแมนซ์เลย คือแบบว่าบ้านเขาเก่าๆโบราณๆแต่ยังคงความสวยอยู่ติดๆกันมีสวนเล็กหน้าบ้าน เห็นแล้วอยากให้แถวบ้านเรามีแบบนั้นบ้างคงแปลกตาดี รถราก็ไม่เยอะ ที่สำคัญสะอาดด้วย เดินไปก็ซึมซาบบรรยากาศกันไป รู้สึกเดินแล้วไม่เหนื่อยเลย ชอบๆ
แล้วประมาณเกือบครึ่งชม.ก็เดินถึงlibrary(ถ้านั่งmetroจะต้องลงที่capital south station)ดูภายนอกอลังการงานสร้างมาก พอเขาไปข้างในแล้วดูดีกว่าของนอกเยอะเลย แบบว่าดูhigh tech มากอุปกรณ์ แผนที่ สื่อการเรียนรู้ของเขาก็แบบทัชสกีน ภายในมีหลายๆส่วนแบ่งเป็นห้องๆ (วันนั้นคนเยอะดีมีคนมาทัศนศึกษาแต่งตัวดูดีกันทั้งน้าน) ส่วนเราก็เดินไปดูไปเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้างส่วนมากก็มีเรื่องhistoy of america เขาจะมีแผ่นพับแจกทุกหัวมุม เราก็หยิบกันไปไม่รู้เรื่องก็หยิบมาเป็นที่ระลึก แล้วฉันก็เริ่มรู้แล้วว่าทำไมเข้าถึงเจริญกว่าเรานักก็ดูแค่ส่วนเล็กของเขายังมีการจัดเก็บข้อมูล การนำเสนอที่มีระบบระเบียบดี ทำให้รู้สึกเห็นคุณค่า อยากเรียนรู้ดูไม่น่าเบื่อ เมืองไทยเมื่อไหร่จะทำแบบนี้ได้มั้ง อะไรเก่าๆก็เก่าเหมือนเดิมอย่างนัั้น

เศร้าใจกะเมืองไทย อย่างตอนนี้บ้านเมืองก็แตกเป็นส่วนๆ ใครจะไปรู้ว่า อีกไม่นานโลกเราก็อาจจะแตกเป็นเสี่ยงๆตามมาไม่ช้า

วกกลับมาอเมรกาต่อดีกว่า แล้วส่วนที่สำคัญในตึกนั้นก็คือห้องสมุดที่ใช้ค้นคว้าหยิบจับหนังสือได้จริง(ส่วนอื่นหนังสือจะอยู่ในตู้กระจก) ฉันได้เข้าไปส่องดูส่นนั้นประมาณ5นาที ดูผ่านกระจกด้วย คนที่เข้าไปข้างในนั้นนั้นได้ต้องมีหนังสือราชการขอเข้าไปมั้ง(ดูจากnational treasure) เดินกันจนถึงประมาณสามโมงครึ่ง เริ่มรู้สีกหิวกันแล้ว เลยจะออกไปหาของกินที่อื่นกัน ดีใจที่มาคิดไม่ผิดจริงๆที่เลือกจะมาแวะที่นี่

วันศุกร์ที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2553

ตะลอน...ในวันว่าง

วันพฤหัสบดีที่15เมษา อากาศแจ่มใสไม่หนาวและร้อนเกินไป ฉันเลยตัดสินใจไปเที่ยวดีซี อีกรอบกับเพื่อนที่ทำเกมส์ด้วยกันอีก2คน
เราเริ่มเดินทางตอนเที่ยง (พกหนังสือท่องเที่ยวไปด้วย)ที่แรกเราตัดสินใจไปกันคือ ไปตลาดเห็นในหนังสือบอกว่าจะมีของสด ต้นไม้ขายริมฟุตบาทเลยอยากไปดูว่ามันจะเหมือนตลาดนัดเมืองไทยรึป่าว ลงที่สถานนีeastern marketกัน พอลงไปปั๊บเมืองแถวนั้นดูสงบมาก สะอาด โบราณแต่สวยและร้านแรกที่เจอคือ เบเกอรี่(คนแถวนั้นดูผู้ดีมากเลย) (ชอบ) แล้วสิ่งที่ขาดไม่ได้คือเจอร้านกาแฟ ต้องแวะ!! แล้วฉันก็เข้าไปสั่งคาปูเย็น แต่ได้ลาเต้กลับมาก็งงๆ ฉันสั่งไม่รู้เรื่องอีกใช่ไหม



แล้วเดินต่อมาเรื่อยก็หาตลาดข้างทางไม่เจอ แต่เจอตลาดที่อยู่ใยบล็อกๆ คล้ายตลาดสดบ้านเราแต่ดูดีกว่า
เดินดูอะไรเรื่อยเปื่อย พอเดินต่อมาอีกนิดก็เจอร้านหนังสือมือสอง ข้างในหนังสือเยอะมากแล้วก็ดูงงๆอ่า คือฉันกำลังหาหนังสือชื่อthe pianist ให้เพื่อนอนู่หาไปหามาหาไม่เจอหว่ะ แล้วเราก็เลยตัดสินใจไปที่อื่นต่อดีกว่า สงสัยตลาดมีวันอาทิตย์แน่เลย
อดเลยเราฝนเริ่มตกอีก
สถานนีต่อไป capital south รอสักพักนะช่วงนี้งานเยอะ





วันอาทิตย์ที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2553

My job = My attraction

ในช่วงเดือนเมษายน ปาร์คจะเปิดเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์เท่านั้น นอกจากวันสุดสัปดาห์นี้บางวันก็มีตารางงานให้ไปเก็บกวาดซุ้มเกมส์ ทำอะรเล็กๆน้อยบ้าง เพื่อที่จะได้ชั่วโมงงานครบ 32ชม. ตามที่เขาตั้งไว้

เสาร์ที่10 april ฉันก็มาทำงานตามปกติ แต่รู้สึกว่าคนน้อยๆไงก็ไม่รู้
ตารางงานฉันจะทำพวกattraction ซึ่งเป็นเกมส์ที่เล่นผาดโผน ได้แก่ speed way (โกคาร์ท)และ skycoaster(บันจี้จั้ม)

แล้วเช้านั้นเขาจะแบ่งคนทำงานเป็นสองฝั่ง ฝั่งหนึ่งจะออกไปทำAC ซี่งมีหน้าที่เกี่ยวเส้นสลิงแล้วก็เทคนิคต่างๆที่ทำให้ผู้เล่นลอยตัวแบบปลอดภัย ส่วนอีกหน้าที่หนึ่งที่ฉันทำเป็นประจำคือใส่ชุดเครื่องเล่นให้ลูกค้า แต่เช้าวันนั้นคนมาเล่นน้อย leadเลยให้พวกเราไปเป็นคนเล่นแทนเพื่อที่ไม่อยากให้ร้านว่าง คิดดูให้เราเล่นทุกคน นึกว่าจะรอดจากคราวที่แล้ว ไหงคราวนี้โดนอีกได้หละ

แต่สุดท้ายก็ทำใจดีสู้เสือขึ้นบินกับเพื่อนอีกสองคน ตื่นเต้นมากฉันไม่เคยเล่นเคยแต่เห็นลูกค้าเล่น !!!!
บรรยากาศช่วงนั้นแบบว่าเสียวมากโดนดึงขึ้นไปสูงหลายร้อยเมตร ห้อยต่องแต่งอยู่บนนั้นซักนาทีมั้ง มองลงมาข้างล่างได้ยินสัณญาณให้ดึงตัวปลดล็อกให้ตกลงมา(เพื่อนเป็นคนดึง) จากนั้นก็ ว้าวใจหายวูบเลยตอนตกครั้งแรก แต่ก็เริ่มสนุกขึ้นมันเหมือนเราโดนตึกลงมาแล้วลอยไปมาได้อย่างนั้นแหละ สุดยอดไปเลย เช้านั้นเลยเล่นไปสองรอบ อิอิ (ดีไม่ต้องเสียตังค์เล่นด้วยครั้งละตั้ง10$แหนะ)
พอตอนบ่าย ฉันกับเพื่อนคนนึงโดนย้ายไปทำอีกที่ก็คือspeed way ไปถึงไหงมีแต่ผู้ชายคุมง่ะ คิดดูก็มันมีแต่หน้าที่ของผู้ชายเขาทั้งนั้น แต่ก็ต้องทำ บ่ายนั้นหน้าที่แรกที่เราได้ไปทำคือ ยืนดูคนขับโกคาร์ทเหมือนพวกsecure คอยดูว่ามีการชนกันไหม เกิดaccidentรึป่าว แล้วก็คอยโบกธง หน้าที่ทุกอย่างจะมีlead คอยสอน แล้วก็เพื่อนร่วมงานต่างชาติที่เขาทำนานกว่าเราสอน เราก็เป็นเหมือนtrainee หลายครั้งมากที่เราต้องไปสตาร์ทรถที่อยู่ๆก็ดับ ยากนิดนึงนะตอนสตาร์ทโกคาร์ท เหนื่อย แล้วบ่ายนั้นก็ยืนตากแดดไปสักสองสามชั่วโมงมั้ง(แดดแรงไม่ต่างจากไทยแค่มีลมเย็นพัดทำให้ไม่ร้อน) ถึงได้เปลี่ยนตำแหน่งไปอีกที่ตกบริเวณที่รถออกตัว ทำไปทำมา....
ก็หมดเวลาทำงาน19.00 เย้ดีใจจังกลับบ้าน กินข้าว นอน
ป.ล ฉันคิดว่าคงจะได้เล่นskycoasterอีกหลายอาทิตย์ คราวหน้าจะได้พกกล้องไปถ่ายตอนเล่นมาให้ดู

วันจันทร์ที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2553

lady and gentleman

ช่วงนี้อยู่ในภาวะวิกฤต

ไวรัสได้เข้าทำลายคอมพ์

บทความต่อไปอาจใช้เวลานานในการตีพิมพ์

ป.ล ได้โอกาสเขียนแบบทางการซะทีเรา

วันพฤหัสบดีที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2553

Work work more>> Have a six flags day

วันที่31marchวันนี้อากาศดี มีแสงแดดทั้งวัน แถมปาร์คเปิดด้วย ได้ไปทำงานแล้วเรา ตื่นเต้นๆๆ

ทำงานจริงวันแรก ฉันอยู่ในตำแหน่งของเกมส์ วันนั้นเขาให้ไปเทรนงานแล้วทำจริงไปด้วย

ฉันได้อยู่ในซุ้มSthep QB challenge เล่นโดยใช้ลูกอเมริกันฟุตบอล ขว้างให้ลงไปในห่วง
และจะมีแต้มให้นับ ตอนแรกไอเราก็นึกว่าจะได้ทำกะคนอื่นด้วยเพราะเรายังไม่คล่อง แต่ปรากฎว่าเขาให้เราคุมคนเดียวแต่จะมีหัวหน้าสอดส่องอยู่แถวนั้น

ช่วงแรกก็ยังไม่ค่อยมีคน แต่หลังๆคนมาเที่ยวปาร์คมากขึ้น แล้วเกมส์ที่ฉันคุมมันดันเป็นเกมส์ใหม่คนเลยให้ความสนใจเป็นพิเศษ คนมาเล่นเยอะนะ ส่วนมากก็เป็นผู้ชาย(><)
ตอนแรกนึกว่าแค่พูดวิธีการเล่นแต่ฉันยังต้องออกไปหน้าร้านชวนคนมาเล่น ทักทายทุกคนที่เดินผ่าน"hi have a six flags day ..." จะบ้าตาย อิ้งฉันก็ไม่โปรขนาดนั้นซะด้วย ดีนะวันนั้นทำถึงแค่ตอนบ่ายสองโมงครึ่ง ถ้านานก็นั้น ฉันจะไหวไหมเนี่ย

วันทำงานวันทีสอง มาทำเวลาเดิม แต่คราวนี้ไม่คุมเกมส์แล้ว เขาให้ไปทำattraction ชื่อ skycoaster หรือง่ายๆก้อบันจี้จั้มอ่ะแหละ ดีนะที่คราวนี้ทำงานกับคนไทยอีกสามสี่คน แล้วก็เพื่อนต่างชาติ เพื่อนต่างชาติก็ดีนะเขาช่วยเทรนงานแล้วก็บอกวิธีพูดกับลูกค้าเพราะฉันมีหน้าที่ใส่ชุดเครื่องเล่นให้ลูกค้า เลยต้องรู้ว่าต้องพูดยังไงให้เขาเข้าใจ ex. step your feet into the leg loop...bra bra ตอนที่เพื่อนร่วมงานพูดให้ไอเราฟัง มันก็พูดเร็วแบบไม่ชัด ไอเราก็ทำหน้างงๆ มันก็คงรู้ว่าเราไม่เข้าใจมั้งเลยสอนไปๆสอนมาซัก สี่รอบได้ เหนื่อยแทน

แล้ววันนั้นเป็นอะไรก็ไม่รู้คนเยอะมากๆ แดดก็แรงแล้วคนก็มาเล่น skycoaster เยอะแบบว่ามาไม่หยุด ฉันกับเพื่อนไม่มีเวลาพักเลย นั่งก็ไม่ได้แต่ก็รู้สึกสนุกนะ เห็นเด็กมาเล่นกัน แบบไม่กลัว บางคนที่มาเล่นก็ดูตื่นเต้นมาก กลัวว่าชุดที่ตัวเองใส่จะหลุดรึป่าวพะวงกันไป ขนาดเห็นเขาเล่นฉันยังเสียวๆแทนเลย คิดดูว่านอนราบแล้วถูกดึงขึ้นไปสูงๆมากแล้วปล่อยให้ตกลง ลอยไปลอยมา ใช่แล้วก็มีลูกค้ารายนึงพอรู้ว่าฉันยังไม่เคยเล่น ก็ถามใหญ่เลยว่าทำไมไม่เล่น คุณหน้าจะลองเล่นดูนะมันสนุกมากเลย no no i'm scared.. ดีนะที่หัวหน้าไม่บังคับให้พวกเราไปเล่นทุกคนก่อน ไม่งั้นเสร็จกันทุกคน55

แล้ววันนั้นก็ผ่านมาด้วยรอยยิ้มบนคราบเหงื่อ(10.00-18.30)

ป.ล ก่อนหน้านั้นฉันกับน้องได้ไปเที่ยวเล่นสวนสนุกกันด้วย แต่อากาศหนาวไปหน่อยเลยเล่นได้แค่นิดเดียว (วันหลังไปใหม่ เล่นฟรีก็เงี่ยแหละ อิอิ)